" ป้องกันและรักษาต่อมลูกหมากโต บรรเทาอาการวัยทอง"
น้ำมันเมล็ดฟักทองอุดมไปด้วยวิตามินอี เมื่อทำงานร่วมกันกับ ซีลีเนียม (Selenium) จะมีประสิทธิภาพสูงในการรักษาและบรรเทาปวดเข่า โดยมีความจำเป็นสำหรับผู้หญิง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวัยหมดประจำเดือนได้ดีไม่เพียงเท่านั้นยังมีประโยชน์ในผู้ชายอีกด้วย เนื่องจากนักวิทยาศาสตร์พบว่าครึ่งหนึ่งของซีลีเนียมที่มีอยู่ในร่างกายจะพบได้ที่อัณฑะและท่อนำน้ำเชื้อ จะมีฤทธิ์ป้องกันมะเร็ง
เป็นมะเร็งทีมีอัตราการเสียชีวิตมากเป็นอันดับสองรองจากมะเร็งปอด โดยมะเร็งชนิดนี้มักจะเกิดในผู้ชายที่อายุ 65 ปีขึ้นไปและมีอัตราการเกิดมะเร็งสูงถึง 1 ใน 11 คน โดยสถาบันโรคมะเร็งแห่งชาติ (national Cancer Institute)
จากการศึกษาชี้ว่าอาหารที่อุดมไปด้วยไขมันสูงจะก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก ดังนั้นการรับประทานอาหารที่มีไขมันต่ำ จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคได้นอกจากนี้การรับประทานน้ำมันเมล็ดฟักทอง (Pumpkin Seed Oil) วันละ 1,000-2,000 มก. ก็เป็นทางเลือกที่ดีเนื่องจากเมล็ดฟักทองจะให้ธาตุสังกะสี (Zn) ในปริมาณสูงและกรดไขมันจำเป็นชนิด โอเมกา 6 (Essential Fatty Acid Omega-6) ซึงจะช่วยลดพยาธิสภาพที่เกิดกับต่อมลูกหมากได้ รวมทั้งการใช้สารต้านอนุมูลอิสระที่เป็นตัวการที่ก่อให้เกิดการพัฒนาของเซลล์จนกลายเป็นเซลล์มะเร็งในที่สุด
ประเทศจาไมกา ทำการศึกษาสตรีที่เลยวัยทองไปแล้วทั้งคนที่เป็นไปโดยธรรมชาติหรือคนได้รับการผ่าตัดเอามดลูกรังไข่ออกจำนวน 35 คน แบ่งให้กลุ่มหนึ่งรับประทานน้ำมันจมูกข้าวสาลีและอีกกลุ่มหนึ่งรับประทานน้ำมันเมล็ดฟักทองวันละ 2,000 มิลลิกรัมต่อวันติดต่อกัน 12 สัปดาห์เหมือนๆกัน ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มรับประทานน้ำมันเมล็ดฟักทองมีการเพิ่มระดับโคเลสเตอรอลชนิดดี (HDL), ช่วยให้ระดับความดันตัวล่าง (diastolic) ลดลง, และลดอาการของวัยทองเช่น อาการร้อนวูบวาบ, ปวดศีรษะและปวดตามข้อลงได้ ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งที่ใช้น้ำมันจมูกข้าวสาลีอาการทุกอย่างเลวร้ายขึ้น ประเทศเกาหลี ทำการศึกษาผู้ชายที่มีอาการต่อมลูกหมากโตจำนวน 47 คนอายุเฉลี่ย 53.5 ปีมีค่า International Prostate symptom score มากกว่า 8 โดยใช้ระยะเวลาศึกษากว่า 12 เดือน แบ่งอาสาสมัครเป็นสี่กลุ่ม กลุ่ม A ให้รับประทานยาหลอดที่ทำจากแป้งมัน 320 มิลลิกรัม กลุ่ม B รับประทานน้ำมันเมล็ดฟักทองวันละ 320 มิลลิกรัม กลุ่ม Cรับประทานน้ำมันสมุนไพรซอร์พาล์เมทโทวันละ 320 มิลลิกรัมและกลุ่ม D รับประทานน้ำมันเมล็ดฟักทองผสมกับน้ำมันสมุนไพรซอร์พาล์เมทโทวันละ 320 มิลลิกรัม ผลการศึกษาพบว่ากลุ่ม B,C,D มีอาการและคุณภาพชีวิตดีขึ้น เฉพาะกลุ่ม D มีค่า PSA ลดลง แต่ปริมาตรของต่อมลูกหมากไม่เล็กลงในทุกกลุ่ม กลุ่ม B และ C มีอัตราขับปัสสาวะออกได้สูงที่สุด ซึ่งอาการจะดีขึ้นเรื่อยๆ เมื่อรับประทานน้ำมันเมล็ดฟักทองต่อไป อาการที่ดีขึ้นสังเกตได้ทางสถิติเมื่อกลุ่ม B ได้รับการรักษาไปแล้ว 6 เดือนและกลุ่ม C หลังการรักษา 12 เดือน
ผลการทดลองสรุปว่า น้ำมันเมล็ดฟักทองและน้ำมันสมุนไพรซอร์พาล์เมทโทมีความปลอดภัยและเป็นทางเลือกที่ได้ผลในการรักษาอาการต่อมลูกหมากโตแทนการใช้ยา
*หมายเหตุ การอักเสบที่เกิดขึ้นในร่างกาย เกิดได้จากการแพ้ยา แพ้อาหาร มีความไม่สมดุลของกรดไขมันในร่างกาย หรือรับประทานอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตที่ขัดขาวมากเกินไป ทำให้เซลล์หรือเนื้อเยื่อมีการอักเสบบวม พอง ทำให้มีอาการเจ็บปวด การเคลื่อนไหวติดขัด (เมื่อมีการบวมตามข้อต่อ) ปัสสาวะติดขัดหรือปัสสาวะได้ไม่หมด (ต่อมลูกหมากที่บวมพองจะขัดขวาง การไหลของปัสสาวะ) เป็นต้น
น้ำมันเมล็ดฟักทอง ไม่เพียงแต่ช่วยลดขนาดและลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมากในผู้ชายเท่านั้น แต่ยังสามารถบรรเทาอาการวัยทอง เช่น อาการร้อนวูบวาบ ปวดศีรษะ และปวดตามข้องในผู้หญิงได้อีกด้วย