" ขับสารพิษ และบำรุงตับด้วยสารอาหาร"
ตับมีหน้าที่บริหารจัดการกับน้ำตาลในร่างกาย ทั้งการเปลี่ยนรูปเพื่อนำไปใช้งานและการสะสมเป็นพลังงานสำรอง ผลิตคอเลสเตอรอล เลซิติน น้ำดี กรดอะมิโน และเอ็นไซม์ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญของการทำงานทุกระบบในร่างกาย เช่น สารพิษ สาร ผสมในอาหาร มลพิษจากสิ่งแวดล้อม ทั้งหมดนี้เป็นภาระที่หนักยิ่งต่อการทำงานของตับ ตับต้องรับภาระในการดำเนินชีวิตทั้งหมดของสิ่งมีชีวิต เมื่อใดที่ตับหยุดทำงานสิ่งมีชีวิตนั้นก็ต้องตายลงไปด้วย
เมื่อมีความเสียหายไม่มากนักก็ยากที่จะทราบถึงเกิดอะไรขึ้น? เมื่อตับได้รับความเสียหาย เมื่อมีความเสียหายไม่มากนักก็ยากที่จะทราบถึงความผิดปกติของตับ อาจมีแค่อาการท้องอืด อาหารไม่ย่อย และเหนื่อยง่ายเท่านั้น จากนั้นเมื่อความเสียหายเกิดมากขึ้น เซลล์ตับมีความเสียหาย มีไขมันเข้ามาสะสม เกิดแผลในเนื้อเยื่อ การผลิตเอ็นไซม์และน้ำดีลดลงมากร่างกายจึงไม่สามารถนำสารอาหารไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ ทำให้มีอาการเหนื่อและอ่อนเพลียเรื้อรังมีน้ำหนักส่วนเกินมากขึ้่น ตับที่เสียหายทำให้ไม่สามารถสังเคราะห์เลซิตินได้ดีเท่าที่ควรร่างกายจึงใช้ไขมันได้อย่างไม่มีประสิทธิภาพ ก่อให้เกิดปัญหาไขมันในเลือดสูง หรือมีไขมันมาสะสมอยู่ที่ตับ เมื่อตับผลิตเอ็นไซม์บางชนิดไม่ได้ ซึ่งมีเอ็นไซม์บางตัวทำหน้าที่หยุดการทำงานของฮอร์โมน เมื่อไม่มีตัวสั่งให้หยุด ผลลัพธ์คือการทำให้เกิดอาการ ตัวบวมน้ำ ไฮโปไกลซีเมีย ไฮเปอร์ไทรอยด์และมีฮอร์โมนเพศชายและหญิงเกินในเพศที่ตรงข้ามกับฮอร์โมนนั้น
ฟอสฟอลิปิด ช่วยขับสารพิษออกจากตับ และให้พลังงานที่ใช้ในการซ่อมแซมตับจากความเสียหายที่เกิดขึ้น และยังช่วยในการป้องกันการสะสมตัวของแอมโมเนียที่ทำให้ตับสูญเสียความสามารถในการย่อยสลายโปรตีน ฟอสฟอลิปิด ชนิดที่เป็นเลซิตินยังสามารถลดระดับคอเลสเตอรอลและละลายไขมันที่สะสมอยู่ในตับลงได้ ช่วยให้การทำงานของตับดีขึ้นและบำรุงตับให้แข็งแรง วิตามินเอ วิตามินซี โคลิน และวิตามินอี ช่วยการทำงานของตับในการขับสารพิษออกจากร่างกาย สารอาหารที่ช่วยในการทำงานของตับเพื่อการซ่อมแซมตัวเองได้แด่วิตามินบีรวม วิตามินอี วิตารมินตามินซี และกรดอะมิโนบางชนิด ทำให้ตับผลิตเอ็นไซม์ได้น้อยลง การขาดวิตามินอี วิตามินซี และโปรตีน เป็นสาเหตุที่ทำให้เซลล์ของตับตายลง และมีเลือดออกในตับ